วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

หลี่ เหลียน เจี๋ย พระเอกหนังจีนชื่อดัง!

หลี่เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2506 ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยเป็นลูกคนสุดท้องในพี่น้องทั้งหมด 5 คน เนื่องจากตัวของหลี่ต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่อายุเพียง 2 ขวบ เขาจึงถูกเลี้ยงดูโดยแม่มาตลอด
เมื่อหลี่อายุได้ 8 ขวบ เขาก็ได้รับการฝึกฝนวิชาวูซู ในช่วงเวลาปิดเทอมหน้าร้อน จากนั้นหลี่ก็อุทิศชีวิตตลอดทั้งชีวิตให้กับกีฬาวูซู จนเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น หลี่ก็เป็นตัวแทนนักกีฬาวูซูของจีนไปแข่งขันต่างๆมากมาย จนได้เป็นแชมป์ถึง 5 ปีซ้อน และหลี่กับทีมของเขาเคยไปแสดงความสามารถทางวูซูต่อหน้าประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ในปี 1974 จากนั้นหลี่ก็ผันตัวเองไปเป็นโค้ชทีมกีฬาวูซูแทนการเป็นนักกีฬา
ในต้นปี 2010 หลี่เปิดเผยว่า จะรับงานแสดงน้อยลง เพื่อที่จะไปทุ่มเทให้กับการทำมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ชื่อ The One Foundation หลังจากที่เจ้าตัวรอดตายมาจากเหตุการณ์สึนามิที่ประเทศไทยเมื่อปลายปี 2004 โดยบอกว่าตนพบว่าศิลปะการต่อสู้มิได้ช่วยอะไรให้รอดชีวิตได้เลยเมื่อต้องต่อสู้กับธรรมชาติ และการแสดงต่อไปนี้เป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น

ก้าวแรกของการเป็นดารา

หลังจากหลี่เป็นโค้ชทีมชาติมานานหลายปี เมื่อเขาอายุได้ 20 ปี เขาก็ถูกแมวมองดึงให้มาเป็นพระเอกหนังเรื่อง Shaolin Temple (1982) โดยหนังเรื่องนี้เป็นงานแจ้งเกิดให้เขาอย่างเต็มตัว แต่ภาคต่อของหนังชุดนี้คือ Shaolin Temple 2 : Kids from Shaolin (1984) และ Martial Arts of Shaolin (1986) กลับไม่ประสบความสำเร็จเลย จากนั้นหลี่ก็กำกับหนังของตนเองเป็นครั้งแรกกับเรื่อง Born to Defence (1988) แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอีก พ.ศ. 2553 นิตยสาร TIME จัดให้ Jetli เป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก ประจำปี 2010


ภาพยนตร์ฮ่องกง

เมื่อหลี่ย้ายเข้ามาอยู่ในฮ่องกง เขาก็ได้ร่วมงานกับผู้กำกับชื่อดังของฮ่องกงอย่าง ฉีเคอะ (Tsui Hark) โดยผลงานเรื่องแรกที่ทั้งสองได้ร่วมงานกัน คือ Once Upon a Time in China (1991) โดยหนังประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในเอเชียและต่างประเทศ ส่งผลให้ชื่อของหลี่ เหลียนเจี๋ยเป็นที่รู้จักในวงกว้างอีกครั้ง หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ร่วมงานกันมาเรื่อย เช่น Swordsman II (1992) The Master (1992) Once Upon a Time in China II (1992) Once Upon a Time in China III (1993) Black Mask (1996) และ Once Upon a Time in China and America (1997) เป็นเรื่องสุดท้าย
หลี่ได้ชื่อว่าร่วมงานกับผู้กำกับคิวบู๊ชื่อดังหลายคน เช่น
หยวนหวูปิง (Yuen Woo-Ping) : Once Upon a Time in China II (1992) The Tai-Chi Master (1993) Last Hero in China (1993) และงานรีเมคของ บรู๊ซ ลี Fist of Legend (1994)
เฉิงเสี่ยวตง (Tony Ching) : Swordsman II (1992) และ Dr. Wai in the “The Scripture with no Words” (1996)
หยวนขุย (Corey Yuen) : Fong Sai-Yuk (1993) , Fong Sai-Yuk II (1993) , The New Legend of Shaolin (1994) , The Bodyguard from Beijing (1994) , My Father is a Hero (1995) และ High Risk (1995)
หงจินเป่า (Sammo Hung) : Kung-Fu Cult Master (1993) และ Once Upon a Time in China and America (1997)


ฮอลลีวู้ด



Lethal Weapon 4 (1998)
หลี่มีผลงานในฮอลลีวู้ดครั้งแรกคือ Lethal Weapon 4 (1998) หนังแอ็คชั่นตำรวจภาคต่อ โดยร่วมแสดงกับเมล กิ๊บสัน, แดนนี่ โกลเวอร์, โจ เปสซี่, เรเน่ รุสโซ่ และ คริส ร็อก โดยตัวของหลี่รับบทเป็นตัวร้าย นับว่าเป็นการพลิกบทบาทจากพระเอกหนังกังฟู มาเป็นผู้ร้าย หลังจากเรื่องนี้ออกฉาย ทำให้ชื่อ เจ็ต ลี (Jet Li) ซึ่งเป็นชื่อภาษาอังกฤษของหลี่ กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
หลังจากนั้นปี 2000 หลี่รับบทนำครั้งแรกในเรื่อง Romeo Must Die (2000) นับว่าเป็นหนังภาษาอังกฤษเรื่องแรกของหลี่ด้วย หลังจากออกฉาย ก็สามารถทำรายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิสสหรัฐอเมริกา นานหลายสัปดาห์ติดต่อกัน
ปี 2001 หลี่มีผลงานถึง 2 เรื่อง คือ Kiss of the Dragon (2001) โดยเป็นการร่วมงานกันระหว่างเขากับลุค เบซอง ร่วมแสดงกับ บริดเจต ฟอนดา และ เชกี คาร์โย ซึ่งหลี่ยังรับหน้าที่อำนวยการสร้างและคิดโครงเรื่องนี้ด้วย และหนังแอ็คชั่น - ไซไฟ เรื่อง The One (2001) อีกทั้งหลี่ยังร่วมกับบริษัทหนังอย่าง Icon Production สร้างภาพยนตร์โทรทัศน์ (Pilot) แนวกำลังภายในเรื่อง Invincible (2001) ความยาว 90 นาที ออกฉายเมื่อปี 2001 ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มคนที่มีวิชาการต่อสู้หลายคนมารวมตัวกัน เพื่อทำภารกิจยับยั้งกลุ่มคนที่หวังจะทำลายโลก
ปี 2003 หลี่รับบทนำร่วมกับนักร้องแร็พเปอร์ ดีเอ็มเอ๊กซ์ ใน Cradle 2 the Grave (2003) โดยหลี่กลับมาร่วมงานอีกครั้งกับผู้อำนวยการสร้าง โจเอล ซิลเวอร์ และผู้กำกับ แอนเดรจ บาร์ตโกเวียก จาก Romeo Must Die โดยหลี่รับบทเป็นนักสืบชาวไต้หวัน ที่ต้องร่วมมือกับนักโจรกรรมเพชร เพื่อตามหาอัญมณีสีดำ โดยในเรื่องนี้หลี่ต้องรับมือกับนักแสดงคิกบ๊อกซิ่งอย่าง มาร์ค ดาคาสคอส เป็นครั้งแรก และสามารถทำเงินขึ้นอันดับหนึ่งบ็อกซ์ออฟฟิสในสัปดาห์แรกของการฉาย
ปี 2005 หลี่ได้ร่วมงานกับ ลุค เบซอง อีกครั้งใน Danny the Dog (หรืออีกชื่อ Unleashed) (2005) และหลี่ยังร่วมแสดงกับ มอร์แกน ฟรีแมน, บ็อบ ฮอสกินส์ และ เคอร์รี่ คอนด็อน ซึ่งได้รับการตอบรับกลุ่มแฟนหนังในอเมริกาเป็นอย่างดี ด้วยรายได้เปิดตัวที่ดีพอสมควร
ปี 2007 เจ็ทลีกลับมาร่วมงานกับ เจสัน สเตแธม อีกครั้งใน War (หรืออีกชื่อ Rogue Assassin) (2007) ภาพยนตร์แอ็คชั่น - ระทึกขวัญ ซึ่งก็ยังได้รับผลตอบรับดีพอสมควรในอเมริกา
ปี 2008 หลี่มีผลงานถึง 2 เรื่อง แต่ผลงานที่น่าสนใจตั้งแต่วางแผนการสร้าง คือ The Forbidden Kingdom ด้วยทุนสร้าง 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่หลี่ร่วมแสดงกับนักแสดงกังฟูชื่อดังอย่าง เฉินหลง เป็นครั้งแรก หลังจากวางแผนจะร่วมงานกันมานานกว่าหลายปี และพึ่งได้มาเจอกันในเรื่องนี้ โดยเนื้อหาอิงจากนิยายเรื่อง ไซอิ๋ว มาบางส่วนและเป็นผลงานกำกับของ ร็อบ มินคอฟ (The Lion King, Stuart Little และ The Haunted Mansion) โดยได้ทีมงานอย่าง ปีเตอร์ เปา (ผู้กำกับภาพ) , หยวนวูปิง (ผู้ออกแบบฉากการต่อสู้) และนักแสดงอย่าง หลิวอี้เฟย, หลี่ บิง บิง, คอลลิน โชว และ ไมเคิล แองการาโน และอีกเรื่องคือภาคต่อของหนังชุด The Mummy ในตอนใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor (2008) โดยร่วมแสดงกับนักแสดงชาวฮ่องกง เช่น หยาง จื่อฉยง และ หวง ชิวเซิน พร้อมกับนักแสดงหลักอย่าง เบรนแดน เฟรเซอร์, มาเรีย เบลโล และ จอห์น ฮันนาห์
และอีก 2 ปีถัดมา หลี่ก็ร่วมแสดงนำในหนังแอ็คชั่นรวมดาราเรื่อง The Expendables (2010) โดยประกบคู่กับนักแสดงอย่าง ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน, เจสัน สเตธัม, ดอล์ฟ ลุนด์เกรน, มิกกีย์ รูร์ก, สตีฟ 'สโตน โคล' ออสติน, แรนดี้ เคาท์เชอร์, บรูซ วิลลิส และ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์


ภาพยนตร์กำลังภายใน

หลี่กลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้งในเรื่อง Hero (2002) หนังจีนทุนสร้าง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยรัฐบาลของจีน กำกับโดยจางอี้โหมว นำแสดงโดยดาราชื่อดังหลายคน อย่าง เหลียง เฉาเหว่ย, จาง ม่านอวี้, เฉิน เตาหมิง, จาง จื่ออี๋ และ เจิน จื่อตัน โดยเฉพาะเจิน จื่อตัน ถือว่าเป็นการกลับมาร่วมงานกับหลี่อีกครั้ง หลังจากเคยประมือกันมาแล้วใน Once Upon a Time in China II (1992) Hero ทำรายได้ทั่วโลกถึง 177.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากนั้นหลี่ก็กลับมาแสดงหนังกำลังภายในเรื่องเยี่ยมอย่าง Fearless (2006) โดยเรื่องนี้หลี่เป็นทั้งนักแสดงและอำนวยการสร้าง โดยการกำกับเป็นของ รอนนี่ ยู (Ronny Yu) ทุนสร้าง 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ว่าด้วยเรื่องราวของฮั่วหยวนเจี๋ย ปรมจารย์กังฟูผู้ต่อสู้กับจิตใจของตน ตั้งแต่เกิดจนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต โดยคำโฆษณาที่ใช้ในการโปรโมตหนังเรื่องนี้บอกว่า เป็นหนังกำลังภายในเรื่องสุดท้ายของเขา ทำให้คนทั่วโลกสนใจหนังเรื่องนี้มากขึ้น โดยสามารถขึ้นอันดับหนึ่งในตารางหนังทำเงินทั่วเอเชีย และยังสามารถทำรายได้ไปพอสมควรในสหรัฐอเมริกา และมีดาราภาพยนตร์ชาวไทยที่มีโอกาสร่วมแสดงกับหลี่ คือ สมรักษ์ คำสิงห์ (นักมวยสากลเหรียญทองโอลิมปิก) ในภาพยนตร์ชุดดังกล่าว
ปี 2007 หลี่ได้มีส่วนร่วมในหนังมหากาพย์สงครามย้อนยุคเรื่อง The Warlords (2007) งานรีเมคเรื่อง Blood Brothers (1973) ของ จางเชอะ ผลงานการกำกับของ ปีเตอร์ ชาน และร่วมแสดงกับ หลิว เต๋อหัว และ ทาเคชิ คาเนชิโร ทุนสร้าง 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นหนังกำลังภายในอย่างที่เข้าใจกัน และเป็นอีกครั้งที่หลี่ต้องรับบทเป็นตัวร้ายในตอนท้ายเรื่องของหนัง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั่วเอเชีย เพราะสามารถเปิดตัวขึ้นอันดับหนึ่งทั้งในจีน ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยตัวหลี่เองได้รับค่าตัวสูงสุดในบรรดาหนังภาษาจีน ด้วยค่าตัวถึง 100 ล้านหยวน หรือ 13.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และล่าสุดก็พึ่งคว้ารางวัลม้าทองคำ (ตุ๊กตาทองฮ่องกง) ครั้งที่ 27 โดยคว้ามาได้ 8 รางวัล รวมถึงรางวัล ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
หลี่ร่วมแสดงในหนังรวมดาราจีนเรื่อง The Founding of a Republic (2009) และรับบทนำในหนังดราม่าเรื่อง Ocean Heaven (2010) ทุนสร้าง 7 ล้านหยวน โดยรับบทเป็นพนักงานในสวนน้ำแห่งหนึ่ง ที่มีลูกชายป่วยเป็นโรคออทิสติก ซึ่งถือเป็นงานแสดงดราม่าเต็มตัวครั้งแรก โดยที่ไม่มีฉากแอ็คชั่นในหนังสักฉากเดียว



เกม

Rise to Honor VG (2004)
บุคลิกของหลี่ได้ถูกนำไปเป็นตัวละครในเกมมาแล้ว โดยเกมนี้มีชื่อว่า Rise to Honor ผลิตโดย Sony Computer Entertainment America โดยเรื่องราวในเกมอ้างอิงเนื้อเรื่องในหนังแอ๊คชั่นของหลี่ และหลี่ยังเป็นผู้ให้เสียงกับตัวละครของเขาในเกม และได้หยวน ขุย (Corey Yuen) ผู้กำกับคิวบู๊คู่หูมาทำหน้าที่ออกแบบท่าทางต่อสู้ในเกมอีกด้วย วางจำหน่ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2004 และในแถบยุโรปเดือนเมษายน 2004 จำหน่ายในรูปแบบเพลย์สเตชัน 2 เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น